
ศัลยกรรมตกแต่งปลือกตาบนหรือตาสองชั้น
ศัลยกรรมตกแต่งปลือกตาบนหรือตาสองชั้น
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ของ PAI เพื่อสอบถามราคา
ค่ารักษา และบริการจาก PAI
ค่าผ่าตัด
- ค่าแพทย์
- ค่าปรึกษาแพทย์
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์และค่ายา
- ค่าดูแลก่อนและหลังผ่าตัด
- ค่าห้องพักของโรงพยาบาล
การดูแลหลังผ่าตัดรวม
- ยาและเวชภัณฑ์
- การตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
- ห้องพักหลังผ่าตัด
เกี่ยวกับการผ่าตัด
เป็นการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินและดึงผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึง ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลง แต่ไม่สามารถลดริ้วรอยที่หางตาและรอยดำรอบดวงตาได้ การผ่าตัดกินระยะเวลาประมาณ 30 ถึง 50 นาที และถอดไหมได้ประมาณ 3 ถึง 5 วันหลังการผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตาสามารถทำควบคู่ไปกับศัลยกรรมใบหน้าแบบอื่นภายในการผ่าตัดครั้งเดียวกันได้ เหมาะอย่างยิ่งกับคนไข้ที่รู้ความต้องการของตัวเองทั้งชายและหญิงที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนังตาตก หรือในคนไข้อายุประมาณ 20 ถึง 30 ปีที่มีปัญหาทางพันธุกรรม
วิธีการผ่าตัด
แพทย์จะทำแนวเส้นผ่าตัดที่เปลือกตาบน หลังจากกำจัดไขมันส่วนเกินแล้ว เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและกล้ามเนื้อจะถูกดึงให้ตึง หนังตาส่วนเกินจะถูกตัดออก และเปลือกตาตามแนวเส้นผ่าตัดจึงจะถูกเย็บเข้าหากัน วิธีการนี้จะซ่อนแนวเส้นผ่าตัดให้อยู่ในรอยพับตามธรรมชาติของเปลือกตาบน ทำให้สังเกตเห็นได้ยาก ขณะทำการผ่าตัดจะมีการใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนๆร่วมด้วยเพื่อห้ามเลือด
ผลลัพธ์
ผลจากการผ่าตัดตกแต่งเปลือกตาบนคือคนไข้จะมีดวงตาที่ดูสดใส ลดร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยตามวัย เป็นผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งจะคงสภาพอยู่เช่นนี้ไปได้หลายปี
ระยะเวลาการผ่าตัด
30-40 นาที
ภาวะแทรกซ้อน
คนไข้เป็นส่วนน้อยที่สามารถพบอาการแทรกซ้อนตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรงหลังการผ่าตัด อาการเหล่านี้ได้แก่ เลือดออก ติดเชื้อ สายตาพร่ามัวช่วง 2 ถึง 3 วันแรกหลังผ่าตัด มีอาการบวมที่หัวและหางตา แผลประสานกันไม่สนิททำให้เกิดเป็นแผลเป็น หลับตาไม่สนิท น้อยรายที่อาการนี้จะอยู่อย่างถาวร นอกจากนี้คนไข้อาจจะพบผิวหนังหัวสีขาวเล็กมากนูนขึ้นมาภายหลังจากถอดไหมออกแล้ว แพทย์จะทำการสะกิดหัวออกโดยใช้ปลายเข็มเขี่ย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไข้จะต้องปรึกษาเรื่องภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับศัลยแพทย์ก่อนผ่าตัด อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สามารถลดลงได้จากความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
ผลข้างเคียง
ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย
การรักษาพยาบาล
คนไข้ควรนอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวประมาณ 2 ถึง 3 วัน และประคบตาด้วยถุงน้ำแข็งที่ไม่หนักมากจนเกินไปเพื่อช่วยลดและบรรเทาอาการบวมหรือช้ำที่สามารถเกิดขึ้นได้ อาการบวมช้ำนี้จะเห็นได้ชัดเจนในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัดและจะค่อยบรรเทาลงภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน แพทย์จะสอนวิธีการทำความสะอาดดวงตา แนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งและแสบหรือคันตา รวมไปถึงการใช้ครีมหล่อลื่นทาดวงตา นอกจากนี้คนไข้อาจจะมีอาการน้ำตาไหลมาก ตาไวต่อแสง และสายตาพร่ามัวชั่วคราวในช่วง 2 ถึง 3 อาทิตย์แรกหลังผ่าตัด อาการปวดแผลอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นคนไข้จะต้องแจ้งศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดทันทีหากพบอาการดังกล่าว ศัลยแพทย์จะติดตามผลอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังถอดไหมในช่วง 2 วันถึง 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
รอยแผลจากการเย็บอาจจะมีสีแดงและบวมนูนในช่วงแรก และจะเริ่มเรียบเนียนกลมกลืนไปกับผิวรอบข้างเมื่อบาดแผลเริ่มประสานกันดีแล้ว อาการอื่นที่อาจจะพบร่วมด้วย ได้แก่ อาการตาบวมช้ำและซีด ซึ่งจะค่อยๆหายไปเองภายใน 7 ถึง 10 วันหลังการผ่าตัด ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย คนไข้จะได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดรอยแผลที่ยังไม่หายดีได้ตั้งแต่ช่วงอาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด ส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 ถึง 2 อาทิตย์ก็กลับไปทำงานได้ตามปกติ
ระยะเวลาพักรักษาในโรงพยาบาลหลังผ่าตัด
-
การใช้ยาระงับความเจ็บปวดก่อนผ่าตัด
การฉีดยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยาระงับความวิตกกังวล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์
การดูแลบาดแผล
ในช่วงอาทิตย์แรกคนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกอย่างที่ต้องใช้สายตา เช่น การอ่านหนังสือ ดูทีวี ใช้คอมพิวเตอร์ และ การใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากจะทำให้ตาแห้งได้ พยายามอย่ากะพริบตาถี่เพื่อหลีกเลี่ยงอาการตาบวม ภายใน 2 ถึง 3 อาทิตย์แรกหลังผ่าตัดคนไข้ต้องสวมแว่นกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านเพื่อป้องกันแสงแดดและลม ภายใน 3 ถึง 4 อาทิตย์แรกหลังผ่าตัดคนไข้ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันในดวงตา ได้แก่ การเล่นกีฬาทุกประเภท การก้ม การยกของหนัก และการร้องไห้ หลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมาเนื่องจากจะมีผลทำให้แผลหายช้าและพักผ่อนให้เพียงพอ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- โปรดแจ้งอาการแพ้ยา หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า
- งดแอสไพริน(aspirin) ไอบิวโพรเฟน(Ibuprofen) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์และหลังผ่าตัด 4 อาทิตย์
การนัดผ่าตัด
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ของ PAI เพื่อสอบถามราคาและกรอกแบบฟอร์มเข้าปรึกษาหรือรับการผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะทำหารนัดหมายกับศัลยแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาก่อน ( consult@pai.co.th หรือ โทรศัพท์ 02-715-0111-12, 081-813-6144 หรือโทรสาร 02-715-0113)
News & Updated
Lecture symposium @ University of Zurich hospital
Lecture symposium. University of Zurich Hospital Surgery Department. Performing Facial Feminization Surgery with U of Zurich hospital Plastic surgery Department team and Speaker for Sex Reassignment Surgery with 40 years experience. Date: April 2016.
Geschlechtsangleichung in Thailand
Ein Faktor gelungener Operation ist die Erregbarkeit Eine Operation gilt als gelungen, wenn sie drei Dinge erreicht: ausreichende Tiefe, gerne auch Feuchtigkeit für die sexuelle Funktion; Erregbarkeit für das Lustempfinden; und ein gutes optisches Erscheinungsbild. “Wenn sie sehr jung sind, wollen sie alles: Erregung, gutes Aussehen, und die Tiefe für die sexuelle Funktion. Je älter […]
the best gender reassignment surgeon in Asia
VANITY FAIR Italy Magazine Dear Dr.Preecha, Preecha Aesthetic Institute Milan, the 9th of February 2016 We are working on a story about how Bangkok became a global gender change destination and while researching the story we realized that you, sir, with your pioneer work, are on of the main protagonists of this story. So it […]
How Thailand Became a Global Gender-Change Destination
October 27, 2015 By: Jason Gale (Bloomberg) Preecha, who performed Thailand’s first gender surgery in 1975, attributes the country’s popularity for the procedure to three things: “No. 1, it’s very cheap in Thailand,” he says. “No. 2, good result, and No. 3, good hospitality — they can have a side trip for tourism.” Read full […]
View all updates
TESTIMONIALS
View all testimonials
Just want to share how grateful I am to be part of the PAI family. Special mention to Dr. Burin and Bune the secretary, the staff and the nurses who looked after me when I had my SRS done last March 11, 2020. Now I’m back here in Sydney, Australia and recovering well. Keep changing […]