
ศัลยกรรมดึงหน้า
ศัลยกรรมดึงหน้า
ศัลยกรรมดึงหน้า
ศัลยกรรมดึงหน้า (Full Facelift) วัตถุประสงค์ของการยกกระชับใบหน้าและลำคอคือเพื่อลดริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดขึ้น และเห็นได้ชัดเจนทั้งที่ใบหน้าและลำคอ โดยศัลยแพทย์จะกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ดึงกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวให้กระชับ จัด (ดึง) ผิวหนังให้ตึงขึ้น การผ่าตัดแบบนี้สามารถทำควบคู่ไปกับศัลยกรรมแบบอื่นได้ ได้แก่ การยกกระชับ (ดึง) หน้าผากและคิ้ว ศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก/ทำตาสองชั้น ดูดไขมันใต้ผิวหน้า และศัลยกรรมเสริมคางและตกแต่งรูปร่างของจมูก จากสถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ได้ว่าการทำศัลยกรรมดึงหน้ากำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี
จากสถิติโดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่ทำศัลยกรรมดึงหน้าจะดูอายุอ่อนโดยประมาณ 7 ปีหลังทำศัลยกรรม
การทำศัลยกรรมดึงหน้าจะมีอยู่ 2 เเบบ
1. ศัลยกรรมดึงหน้า บางส่วน ( Mini Facelift) เช่นบริเวณแก้มที่ห้อยหรือเหี่ยวย่น
2. ศัลยกรรมดึงหน้า ทั้งหมด (Full Facelift) เช่นบริเวณหน้าผาก, แก้ม, คิ้ว และกระชับลำคอ
ส่วนศัลยกรรมเพิ่มเติมที่มักจะทำควบคู่กับศัลยกรรมดึงหน้า เช่น ศัลยกรรมกระชับลำคอ (neck lift), แก้ไขหนังตาหย่อนยาน หรือถุงไขมันใต้ตา, ดูดไขมัน, Fillers, ผ่าตัดเอาไขมันที่แก้มออก
ผู้ที่เหมาะสมกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า
การดึงหน้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นค่อนข้างชัดเจน กล่าวคือตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะอายุมากขึ้นผิวหนังก็จะเสื่อมสภาพไปตามเวลา แต่สำหรับผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นไม่มาก เช่นบริเวณแก้ม หรือคางอาจจะสามารถทำศัลยกรรมดึงหน้าบางส่วนได้ (Mini Facelift)
วิธีการผ่าตัดดึงหน้า Full Facelift
แนวเส้นผ่าตัดเริ่มตั้งแต่บริเวณหลังแนวไรผมตรงขมับ ไล่ลงมาตามแนวเส้นผมจนถึงด้านหน้าใบหู โค้งอ้อมติ่งหูแล้วย้อนกลับขึ้นไปด้านหลังใบหู และอาจจะเลยลึกเข้าไปในหนังศีรษะส่วนล่าง ทั้งนี้การกำหนดแนวเส้นผ่าตัดขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าของคนไข้แต่ละคน เมื่อแพทย์ทำแนวเส้นผ่าตัดได้แล้วจะทำการแยกชั้นผิวหนังออกจากชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ ไขมันบริเวณคอและคางอาจจะถูกตัดหรือดูดออกเพื่อให้โครงหน้าได้รูปทรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ในส่วนของกล้ามเนื้อและผิวหน้า แพทย์จะทำการดึงและตัดส่วนเกินออก แผลจากแนวเส้นผ่าตัดที่เกิดจากการยกกระชับใบหน้าและลำคอจะแทบมองไม่เห็นเมื่อเวลาผ่านไป ศัลยกรรมยกกระชับแบบนี้สามารถลดรอยเหี่ยวย่นได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ
ผลของการทำศัลยกรรมดึงหน้ามักคงอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี, รอยแผลบริเวณด้านหน้า และหลังใบหูมักไม่เป็นที่สังเกต จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างสูงเพื่อให้ได้ผลที่น่าพึงพอใจ
อาการโดยทั่วไปหลังการดึงหน้า
เป็นธรรมดาที่คนไข้อาจจะรู้สึกปวดแผลหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆที่ไม่ซับซ้อนภายหลังเสร็จสิ้นการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าและลำคอ อาการที่พบเห็นโดยมากเหล่านี้สามารถทำให้หมดไปโดยการรับประทานยา
อีกอาการหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยคืออาการชาที่ผิวหน้าและลำคอ อาการนี้จะหายไปเองหลังผ่าตัดแล้วประมาณ 2 ถึง 3 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ส่วนรอยแผลจากแนวเส้นผ่าตัดจะค่อยๆประสานกันใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3 อาทิตย์ อย่างไรก็ตามคนไข้จะต้องรีบปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดทันทีหากพบอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น อาการปวดที่รุนแรงเฉียบพลัน หรืออาการหน้าบวมเฉียบพลัน
การฟื้นตัวหลังการทำศัลยกรรมดึงหน้า
- ส่วนใหญ่มักจะไม่สบายตัวหลังการทำศัลยกรรม, รอยฟกช้ำ, บวมจะเกิดขึ้นต่อไปราวสามวัน
- การฟื้นตัวจะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน แต่การทำกิจกรรมปกติสามารถเริ่มได้หลังจากทำศัลยกรรม 2-3 วัน
- ไหมจะถูกตัดออกภายใน 5-8 วัน ขึ้นอยู่กับการทำศัลยกรรมแต่ละประเภท
- ผ้าพันแผลจะต้องแห้ง และทำตามศัลยแพทย์แนะนำ การฟื้นคืนสภาพปกติจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ในขณะรอยช้ำลดลง
- รอยแผลจะใช้เวลาประมาณ 3-8 เดือนในการเสมือนธรรมชาติ
ค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมดึงหน้า เเบบเหมารวมอยู่ในเเพกเก็จ
- ค่าแพทย์
- ห้องพักของโรงพยาบาล 1 คืน
- ค่าปรึกษาแพทย์
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาก่อนผ่าตัด
- ค่าดูแลก่อนและหลังผ่าตัด
- ยาและเวชภัณฑ์กลับบ้าน
- การตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
ระยะเวลาการผ่าตัดดึงหน้า
2 ชั่วโมง
ผลข้างเคียง
ความรุนแรง และระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย คนไข้อาจจะประสบปัญหาหน้าบวมซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปภายใน 1 ถึง 2 อาทิตย์ หรือพบอาการตึงและชาไร้ความรู้สึกบริเวณใบหน้าและลำคอหลังการผ่าตัดจะหมดไปในเวลาไม่กี่สัปดาห์
การดูเเลระหว่างพักฟื้นที่โรงพยาบาล
แพทย์จะทำการสอดท่อเล็กๆใต้ผิวหนังที่บริเวณหลังใบหูประมาณ 1 ถึง 2 วันเพื่อให้เลือดที่อาจจะค้างอยู่ใต้ผิวหนังได้ถูกระบายออก คนไข้อาจจะต้องพันผ้าพันแผลหลวมๆไว้รอบศีรษะประมาณ 1 วันเพื่อลดอาการบวมและเขียวช้ำบริเวณแผลผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นโดยประมาณ 1 ถึง 2 อาทิตย์จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ
ระยะเวลาพักรักษาในโรงพยาบาลหลังผ่าตัด
คนไข้จะต้องนอนที่โรงพยาบาล 1 คืนเพื่อดูผลการผ่าตัด
การใช้ยาระงับความเจ็บปวดก่อนผ่าตัด
สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการวางยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์
การดูแลบาดแผล
คนไข้จะต้องยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวประมาณ 2 ถึง 3 วันเพื่อป้องกันอาการบวมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายหลังการผ่าตัด และสามารถเริ่มใช้เครื่องสำอางได้ภายหลังจากถอดไหมออกแล้ว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ถึง 3 เดือน งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อบาดแผล เช่น การวิ่ง งานบ้าน การมีเพศสัมพันธ์ การอบไอน้ำ และกิจกรรมที่มีผลต่อการเพิ่มความดันเลือด รวมทั้งงดของมึนเมาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ การพักผ่อนให้เพียงพอมีผลต่อการที่บาดแผลจากการผ่าตัดหายไวขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด (ทางเจ้าหน้าที่ เเละเเพทย์จะเเจ้งเพิ่มเติมในวันที่รับการปรึกษาโดยตรง)
- โปรดแจ้งอาการแพ้ยา หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า
- งดแอสไพริน(aspirin) ไอบิวโพรเฟน(Ibuprofen) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์และหลังผ่าตัด 4 อาทิตย์
การนัดผ่าตัด
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ของ PAI เพื่อสอบถามราคาและกรอกแบบฟอร์มเข้าปรึกษาหรือรับการผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะทำหารนัดหมายกับศัลยแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาก่อน consult@pai.co.th
หรือโทรสอบถามได้โดยตรงที่เบอร์ 02 715 0111
News & Updated
Lecture symposium @ University of Zurich hospital
Lecture symposium. University of Zurich Hospital Surgery Department. Performing Facial Feminization Surgery with U of Zurich hospital Plastic surgery Department team and Speaker for Sex Reassignment Surgery with 40 years experience. Date: April 2016.
Geschlechtsangleichung in Thailand
Ein Faktor gelungener Operation ist die Erregbarkeit Eine Operation gilt als gelungen, wenn sie drei Dinge erreicht: ausreichende Tiefe, gerne auch Feuchtigkeit für die sexuelle Funktion; Erregbarkeit für das Lustempfinden; und ein gutes optisches Erscheinungsbild. “Wenn sie sehr jung sind, wollen sie alles: Erregung, gutes Aussehen, und die Tiefe für die sexuelle Funktion. Je älter […]
the best gender reassignment surgeon in Asia
VANITY FAIR Italy Magazine Dear Dr.Preecha, Preecha Aesthetic Institute Milan, the 9th of February 2016 We are working on a story about how Bangkok became a global gender change destination and while researching the story we realized that you, sir, with your pioneer work, are on of the main protagonists of this story. So it […]
How Thailand Became a Global Gender-Change Destination
October 27, 2015 By: Jason Gale (Bloomberg) Preecha, who performed Thailand’s first gender surgery in 1975, attributes the country’s popularity for the procedure to three things: “No. 1, it’s very cheap in Thailand,” he says. “No. 2, good result, and No. 3, good hospitality — they can have a side trip for tourism.” Read full […]
View all updates
TESTIMONIALS
View all testimonials
Just want to share how grateful I am to be part of the PAI family. Special mention to Dr. Burin and Bune the secretary, the staff and the nurses who looked after me when I had my SRS done last March 11, 2020. Now I’m back here in Sydney, Australia and recovering well. Keep changing […]